• บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด
ยินดีให้คำปรึกษา โทร 02-686-1888  

เกี่ยวกับ SAM

หน่วยงานภาครัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีภารกิจสำคัญในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของระบบสถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่เป็นหนึ่งในกลไกของภาครัฐที่ร่วมแก้ไข พัฒนา และฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการให้ โอกาส ลูกค้าของ SAM ในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และให้ โอกาส ผู้สนใจได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มือสอง หรือ “ทรัพย์สินรอการขาย” เพื่อคนไทยมีบ้านเพื่ออยู่อาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในทำเลดีทั่วประเทศ รวมทั้งให้ โอกาส ลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ได้แบ่งเบาภาระหนี้สิน ภายใต้โครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM”

ประวัติความเป็นมา

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ( “บสส.” หรือ “SAM”)  ได้จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2543 ซึ่งมีมติเห็น ชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan  : NPL) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีภาระหนี้ตามบัญชี  (Outstanding per book : OPB) มูลค่า 519,378 ล้านบาท ตามความเห็น ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (“กองทุนเพื่อ การฟื้นฟูฯ”) ด้วยการจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ซึ่ง บสส. ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2543 ด้วยทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท (จำนวน  2,500,00 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) โดยมีวัตถุประสงค์ในการรับซื้อ รับโอน สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงิน ตลอดจนหลักประกันของสินทรัพย์นั้นเพื่อนำมาบริหารหรือจำหน่ายจ่ายโอนต่อไป และ ให้มีอำนาจว่าจ้างหรือแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญในการบริหารสินทรัพย์มาดำเนินการ บริหารสินทรัพย์ หรือกระทำการอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการบริหารสินทรัพย์ ทั้งปวงที่เกี่ยวเนื่องหรือเกี่ยวกับการบริหารสินทรัพย์ และได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (“ธปท.”) ให้ประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2543

การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่สำคัญ

ปี 2543
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) จัดตั้งขึ้นเพื่อรับโอน NPL จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ภาระหนี้ตามบัญชี 519,378 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2543
ปี 2544
พระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พศ. 2544 ("พรก.บสท") กำหนดให้ บสส. ต้องโอนหนี้ด้อยคุณภาพ NPL ซึ่งมีภาระหนี้ตามบัญชี 309,089 ล้านบาท ให้แก่ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)
ปี 2547
วันที่ 7 พฤษภาคม 2547 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ มีมติให้ บสส. รับโอนกิจการบริษัท บริหาร สินทรัพย์เพชรบุรี จำกัด (บสพ.) โดยให้ บสพ. ขายลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้วให้แก่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และโอนสินทรัพย์หนี้สิน และภาระผูกพันที่เหลือทั้งหมดให้แก่ บสส. ทำให้บริษัทมีมูลค่าตามบัญชีของ NPL ส่วนของธนาคารกรุงไทย และ บสพ. เป็นจำนวนทั้งสิ้น 275,944 ล้านบาท
ปี 2549
บสส. เริ่มดำเนินการซื้อ NPL และ ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จากสถาบันการเงินอื่นมาบริหาร
ปี 2550
บสส. เปิดที่ทำการสาขาแห่งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่
ปี 2551
บสส. เปิดที่ทำการสาขาแห่งที่สอง ที่จังหวัดขอนแก่น
ปี 2552
บสส. เปิดที่ทำการสาขาแห่งที่สาม ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปี 2555
บสส. เปิดที่ทำการสาขาแห่งที่สี่ ที่จังหวัดพิษณุโลก / บสส. ได้ประมูลซื้อ NPL และ NPA จาก บสท. เนื่องจาก บสท. ต้องปิดดำเนินการตามเวลาที่ พรก.บสท.กำหนดไว้ โดย บสท. ปิดตัวลงในปี 2554
ปี 2560
ธปท. ริเริ่มโครงการช่วยเหลือประชาชนรายย่อยในการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งมีค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างเบ็ดเสร็จและมีประสิทธิภาพ ด้วยความร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ จึงมีการจัดตั้ง “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน” หรือ “คลินิกแก้หนี้” โดยตกลงร่วมกันแต่งตั้ง บสส. เป็นหน่วยงานกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว ลูกหนี้สามารถบริหารจัดการชำระหนี้ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามความสามารถที่แท้จริง และ บสส. ยังทำหน้าที่จัดกิจกรรมให้ความรู้ เสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้แก่ประชาชนอีกด้วย / บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 4,379,.43 ล้านบาท
ปี 2561
บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 6,227.58 ล้านบาท
ปี 2562
บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 8,186.55 ล้านบาท
ปี 2563
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด / บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 6,755.30 ล้านบาท
ปี 2564
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด / บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 2,780.22 ล้านบาท
ปี 2565
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2563 จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด / บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 5,262.77 ล้านบาท / เดือนธันวาคม 2565 บสส. เสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก ประเภทหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน วงเงิน 2,500 ล้านบาท อายุ 3-7 ปี และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (Institutional Investors and High Net Worth Investors)
ปี 2566
บสส. ได้ประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน มูลค่ารวม 5,684 ล้านบาท / วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ AA+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ “คงที่” ต่อเนื่อง จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด