• บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด
ยินดีให้คำปรึกษา โทร 02-686-1888  

คำถามที่พบบ่อย

ด้านองค์กร (Corporate)

A : SAM คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส. / SAM) เป็นหน่วยงานภาครัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในด้านการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของระบบสถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่แก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพ เจรจาหาข้อยุติกับลูกค้าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ NPL  พัฒนาการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย NPA เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนให้ประชาชนและภาคธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน

A: SAM ทำหน้าที่ ดังนี้

  • การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยคุณภาพ (NPL) : ให้โอกาสลูกค้าที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ หรือหนี้เสีย (NPL) ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SAM สามารถเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ SAM ได้
  •   การบริหารและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์มือสอง หรือ ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) : เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย และการลงทุนในทำเลดีทั่วประเทศ
  •   โครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” : ให้โอกาสลูกค้าที่เป็นหนี้เสียส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่เกิดจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ได้แก้ไขปัญหาหนี้โดย บสส. ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวกลางในการติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เพื่อให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว และลูกค้าได้รับบริการแบบครบวงจร (one-stop service) พร้อมได้รับความรู้ทางการเงิน

A: SAM ไม่มีนโยบายในด้านการปล่อยสินเชื่อ / เงินกู้ และไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากลูกค้า โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพที่แอบแฝงใช้ชื่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM หรือ บสส. หลอกลวง แอบอ้าง ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ

ด้านปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (NPL)

A : SAM มีนโยบายช่วยเหลือลูกค้า โดยมุ่งเน้นให้มีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงให้คำปรึกษา เจรจาหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติภายใต้แนวทางที่เหมาะสมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน ลูกค้าสามารถเข้ามาเจรจา ปรึกษาหารือแนวทางที่เป็นไปได้ในการแก้ไขหนี้ที่เหมาะสมกับกำลังความสามารถ รวมถึงสอบถามขั้นตอนการดำเนินการทางคดี และเจรจาได้ทุกช่วงเวลา แม้จะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีแล้ว

A : ขั้นตอนการปรับโครงสร้างหนี้ NPL ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SAM สามารถดำเนินการได้ดังนี้

  1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อนัดหมายวัน-เวลา เข้าพบและจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
  2. เข้าพบเจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน บสส. พร้อมเอกสารในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

2.1 กรณีประกอบอาชีพเป็นพนักงานประจำ

2.1.1  สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน

2.1.2  เครดิตบูโร

2.1.3  บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)

2.1.4  ทะเบียนบ้าน

2.2 กรณีประกอบอาชีพส่วนตัว/ธุรกิจส่วนตัว

2.2.1    Statement หมุนเวียนบัญชี

2.2.2    หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือเอกสารที่แสดงถึงการจัดตั้งนิติบุคคลนั้นๆ (คัดสำเนาไม่เกิน 1 เดือน)

2.2.3    บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล

2.2.4    ทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล

2.2.5    ตราประทับนิติบุคคล

  1. เมื่อจัดทำเอกสารการแสดงตนเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อพิจารณา พร้อมกรอบเวลาในการนำเสนอขออนุมัติกรณีการเจรจามีข้อยุติ
  2. แจ้งผลการพิจารณาให้ลูกค้าทราบ และนัดหมายทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้

A : เอกสารประกอบการลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ มีดังนี้

(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)
  2. ทะเบียนบ้าน
  3. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล, ใบสำคัญการสมรส, ใบหย่า (ถ้ามี)
  4. หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA, Work Permit (กรณีต่างชาติ)

(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือเอกสารที่แสดงถึงการจัดตั้งนิติบุคคลนั้นๆ (คัดสำเนาไม่เกิน 1 เดือน)
  2. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
  3. ทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
  4. ตราประทับนิติบุคคล

(3) กรณีดำเนินการในฐานะผู้จัดการมรดก

  1. ใบมรณบัตร
  2. คำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกฉบับศาลรับรองสำเนาถูกต้อง
  3. บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้จัดการมรดก
  4. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

(4) กรณีดำเนินการในฐานะทายาทโดยธรรม

  1. ใบมรณบัตร
  2. บัญชีเครือญาติ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน
  3. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

(5) กรณีดำเนินการของผู้เยาว์

  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)
  2. ทะเบียนบ้าน
  3. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  4. หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
  5. บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม

(6) กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการ

  1. หนังสือมอบอำนาจตามรูปแบบของ SAM พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท
  2. เอกสารของผู้มอบอำนาจ (1) หรือ (2) หรือ (3) หรือ (4) แล้วแต่กรณี โดยผู้มอบอำนาจลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  3. บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
  4. บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของพยาน 2 คนที่ลงชื่อรับรองในหนังสือมอบอำนาจ

ด้านทรัพย์สินรอการขาย (NPA)

A: ราคาที่ บสส. ประกาศขาย เป็นราคาขั้นต่ำแล้ว ไม่สามารถต่อรองราคาได้ โดย บสส. กำหนดราคาประกาศขายจากคณะกรรมการกำหนดราคา หากในอนาคตมีการปรับเปลี่ยนราคาคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาตามสภาวะของตลาดและปัจจัยแวดล้อมในขณะนั้น และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคา การซื้อทรัพย์สินจะต้องใช้วิธีประมูลเท่านั้น พนักงาน บสส. ไม่มีอำนาจในการปรับลดราคา หรือต่อรองราคาแต่อย่างใด และไม่มีการรับค่าคอมมิชชั่นใดๆ จากผู้ซื้อ ขอให้ผู้ซื้อมั่นใจในความโปร่งใสของราคาที่ประกาศขายของ บสส.

A: บสส. ขายทรัพย์ตามสภาพ และตามข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารสิทธิ์ ดังนั้น ลูกค้าจึงต้องตรวจสอบประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ก่อน เช่น ทำเลที่ตั้ง สภาพทรัพย์สิน ภาระผูกพัน หรือ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน ความถูกต้องความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารสิทธิ์ หรือ สิ่งปลูกสร้าง หรือ ประเด็นอื่นใดที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานราชการ หรือ จากแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่พึงพอใจก่อนการตัดสินใจซื้อ

A: ในกรณีที่ทรัพย์เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ลูกค้าสามารถติดต่อขอชมทรัพย์ได้ โดยโทรศัพท์แจ้งความประสงค์และนัดหมายที่ Call Center 02-686-1888 หรือสามารถดำเนินการด้วยตนเอง โดยการเข้า เว็บไซต์ บสส. www.sam.or.th กรอกข้อมูลทรัพย์ที่จะขอเข้าชม เลือกทรัพย์ตามเงื่อนไขที่ บสส. ระบุให้สามารถเข้าชมได้  และในกรณีที่ทรัพย์เป็นที่ดินเปล่า ลูกค้าสามารถเดินทางไปดูทรัพย์ได้ด้วยตนเอง ตามแผนที่ที่ บสส. ได้ให้ข้อมูลไว้บน website www.sam.or.th

A: ลูกค้าควรเตรียมความพร้อมทางการเงินให้เรียบร้อยก่อนทำการเสนอซื้อทรัพย์ กรณีที่ลูกค้าประสงค์จะใช้สินเชื่อ แนะนำให้ปรึกษากับสถาบันการเงินที่ท่านใช้บริการอยู่ ก่อนทำการเสนอซื้อ เพื่อความพร้อมในการชำระราคาซื้อทรัพย์ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด และพร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ได้ต่อไป

A: กรณีที่ทรัพย์อยู่ในโครงการที่มีนิติบุคคล ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายให้ดูแลความเรียบร้อยของโครงการ และนิติบุคคลนั้นกำหนดให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องชำระค่าส่วนกลาง บสส. จะเป็นผู้ชำระค่าส่วนกลางในส่วนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ บสส. รับโอนกรรมสิทธิ์จนถึงวันที่ บสส. โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า

ทั้งนี้ ในกรณีที่ บสส.  มีการชำระค่าส่วนกลางไว้ล่วงหน้าแล้ว บสส. ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกให้ลูกค้าชำระเงินค่าส่วนกลางที่ บสส. สำรองจ่ายล่วงหน้าไปแล้วนั้นคืนให้แก่ บสส. ตามสัดส่วนระยะเวลาการครอบครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น โดยปกติ บสส.  จะชำระค่าส่วนกลางล่วงหน้าทั้งปี ยกตัวอย่างเช่น กรณีลูกค้ารับโอนกรรมสิทธิ์ เดือนกันยายน (เดือน 9) บสส. จะแจ้งให้ลูกค้าชำระค่าส่วนกลางของเดือน 10-12 (รวม 3 เดือน) คืนให้ บสส.

A:  ทรัพย์ประมูล คือ ทรัพย์ใหม่ที่มีการประกาศขายครั้งแรก หรือ ทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาประกาศขาย กรณีที่ทรัพย์ดังกล่าวไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล บสส. จะปรับสถานะเป็นทรัพย์ซื้อตรง เพื่อขายให้ผู้สนใจรายแรกที่เสนอราคาไม่ต่ำกว่าราคาประกาศขาย

A: การประมูลทรัพย์ของ บสส.  เป็นการยื่นซองเสนอราคา โดยลูกค้าที่จะเข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันซองเพื่อเสนอราคาประมูล เป็น “แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน” มูลค่า 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำตามรายการทรัพย์สินที่ลูกค้าจะยื่นซองประมูล สั่งจ่ายในนาม “บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด” โดยลูกค้าจะต้องลงทะเบียนและยื่นซองด้วยตนเอง หรือ ผ่านไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ภายในวัน-เวลา และสถานที่ ที่ บสส. กำหนด

บสส. จะเปิดซองและประกาศผลผู้ชนะการประมูล  ณ สำนักงานใหญ่ของ บสส. ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถเข้าร่วมการรับชมการประกาศผลการประมูล ณ สำนักงานใหญ่ของ บสส. ได้ หรือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าจะรับชมการถ่ายทอดสดการประกาศผลผ่านสื่ออิเลคทรอนิกส์ (Facebook Live กลุ่มปิด) โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดและไม่ต่ำกว่าราคาขายขั้นต่ำที่ประกาศจะเป็นผู้ชนะการประมูล

A: เอกสารที่ต้องเตรียมในการลงทะเบียนประมูล ดังนี้

(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ (ไม่หมดอายุ)
  2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
  3. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  4. หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA (ไม่หมดอายุ) / Work permit (กรณีชาวต่างชาติ) (ไม่หมดอายุ)

(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับนายทะเบียนรับรอง ไม่เกิน 1 เดือน)
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
  3. สำเนาทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจ
  4. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ถ้ามี) *ตราประทับบริษัท กรณีมีระบุในหนังสือรับรอง

(3) กรณีมีการมอบอำนาจ ต้องมีเอกสารเพิ่มจากที่ระบุไว้ข้างต้น ดังนี้

  1. หนังสือมอบอำนาจ (ใช้แบบฟอร์ม ของ บสส.หรือตามแบบฟอร์มที่ บสส.เห็นชอบ โดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท ต่อ ผู้รับมอบอำนาจ 1 ท่าน)
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
  3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ *สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของพยานทั้ง 2 ท่าน

(4) กรณีผู้เยาว์

  1. สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่หมดอายุ)
  2. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  3. หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
  4. สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม พร้อมลงนามรับรองเอกสาร (ไม่หมดอายุ)

A: ลูกค้าที่ลงทะเบียนแล้วสามารถประมูลทรัพย์ได้ทุกรายการที่มีการประกาศประมูลขายในรอบนั้นๆ โดยลูกค้าจะต้องยื่นซองประมูลทรัพย์ทุกรายการที่ต้องการประมูลซื้อ ซองละ 1 รายการ และวางหลักประกันเป็น แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน ในจำนวน 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำ ( 1 ซองประมูล/เช็ค 1 ฉบับ)

A: บสส. จะคืนเช็คฉบับที่ลูกค้าวางประกันซองไว้ ให้แก่ลูกค้าภายใน 15 วันทำการ โดย บสส. จะมีหนังสือแจ้งผลการประมูลแจ้งไปยังลูกค้า และลูกค้าสามารถแจ้งความต้องการในการรับเช็คคืน ดังนี้

  1. มารับเช็คด้วยตนเอง ในวันประกาศผลการประมูล ณ สถานที่ จัดประมูล หรือมารับภายหลัง
  2. แจ้งความประสงค์ให้ บสส. ส่งให้ลูกค้าผ่านไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้

กรณีลูกค้าเข้าร่วมงานเปิดซองประมูลด้วยตนเอง ณ สถานที่ ที่ บสส.กำหนด สามารถรับเงินประกันซองคืนได้ภายหลังจบงานประมูล

A: บสส. ไม่ตัดสิทธิ์การเป็นผู้ชนะประมูล แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมชม Facebook Live กลุ่มปิด หรือไม่ได้มาในวันเปิดซองประมูล ภายหลังการประมูล บสส. จะมีหนังสือแจ้งผลการประมูลแจ้งไปยังลูกค้า

A: ไม่ถือว่าเป็นการจองซื้อทรัพย์ ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขทั่วไปในการซื้อขายทรัพย์สินรอการขายของ บสส.

A: เอกสารที่ต้องเตรียมในการซื้อตรง ดังนี้

  1. แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน มูลค่า 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำ โดยขีดคร่อมเฉพาะ (Account Payee Only) และขีดฆ่าหรือผู้ถือ สั่งจ่ายในนาม “บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด”
  2. เอกสารประกอบการเสนอซื้อ ดังนี้

(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ (ไม่หมดอายุ)
  2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
  3. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  4. หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA (ไม่หมดอายุ) / Work permit (กรณีชาวต่างชาติ) (ไม่หมดอายุ)

(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง

  1. หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับนายทะเบียนรับรอง ไม่เกิน 1 เดือน)
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
  3. สำเนาทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจ
  4. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ถ้ามี) *ตราประทับบริษัท กรณีมีระบุในหนังสือรับรอง

(3) กรณีมีการมอบอำนาจ ต้องมีเอกสารเพิ่มจากที่ระบุไว้ข้างต้น ดังนี้

  1. หนังสือมอบอำนาจ (ใช้แบบฟอร์ม ของ บสส. หรือตามแบบฟอร์มที่ บสส. เห็นชอบ ติดอากรแสตมป์ 30 บาท ต่อ ผู้รับมอบอำนาจ 1 ท่าน)
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
  3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ *สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+ทะเบียนบ้านของพยานทั้ง 2 ท่าน

(4) กรณีผู้เยาว์

  1. สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่หมดอายุ)
  2. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  3. หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
  4. สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม พร้อมลงนามรับรองเอกสาร (ไม่หมดอายุ)

A: ลูกค้าชำระเงินมัดจำ 10% ณ วันเสนอซื้อ บสส.จะนัดหมายลูกค้าให้มาลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 10 วันทำการ หลังจากนั้น ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 90% พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ ภายใน 60 วันนับจากวันที่ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย

A: ลูกค้าจะต้องเตรียมค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (ปกติที่ 2% ของราคาประเมินราชการ – แต่อาจมีทรัพย์บางประเภท บางรายการที่ได้รับการลดหย่อน หรือ ยกเว้นตามมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาล) และเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงการเสนอซื้อในแต่ละครั้ง

โดยผู้มีหน้าที่ชำระค่าภาษีและค่าธรรมเนียมในการโอนในวันโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้

ผู้ขาย ผู้ซื้อ
ภาษีเงินได้  หัก ณ ที่จ่าย
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าอื่นๆ เช่น ค่าคำขอ จำนวน 20 บาท ค่าอากรตาม ป.37 จำนวน 5 บาท ค่าพยาน จำนวน 20 บาท เป็นต้น

A: บสส. จะโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้จะซื้อตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายเท่านั้น (ผู้เสนอซื้อ, ผู้ลงนามในสัญญา และผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ จะต้องเป็นรายเดียวกัน)

A: ทรัพย์ที่มีผู้ใช้ประโยชน์อยู่อาศัย บสส. จะดำเนินการฟ้องขับไล่ตามขั้นตอน ลูกค้ามีทางเลือกว่าจะรอให้ บสส.ขับไล่เสร็จแล้วค่อยเสนอซื้อ หรือว่าจะซื้อทรัพย์ดังกล่าวก่อน แล้วจึงไปเจรจากับผู้ใช้ประโยชน์เองก็ได้