คำถามที่พบบ่อย
ด้านองค์กร (Corporate)
A : SAM คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส. / SAM) เป็นหน่วยงานภาครัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในด้านการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของระบบสถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่แก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพ เจรจาหาข้อยุติกับลูกค้าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ NPL พัฒนาการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย NPA เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนให้ประชาชนและภาคธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน
A: SAM ทำหน้าที่ ดังนี้
- การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยคุณภาพ (NPL) : ให้โอกาสลูกค้าที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ หรือหนี้เสีย (NPL) ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SAM สามารถเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ SAM ได้
- การบริหารและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์มือสอง หรือ ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) : เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย และการลงทุนในทำเลดีทั่วประเทศ
- โครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” : ให้โอกาสลูกค้าที่เป็นหนี้เสียส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่เกิดจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ได้แก้ไขปัญหาหนี้โดย บสส. ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวกลางในการติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เพื่อให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว และลูกค้าได้รับบริการแบบครบวงจร (one-stop service) พร้อมได้รับความรู้ทางการเงิน
A: SAM ไม่มีนโยบายในด้านการปล่อยสินเชื่อ / เงินกู้ และไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากลูกค้า โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพที่แอบแฝงใช้ชื่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM หรือ บสส. หลอกลวง แอบอ้าง ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ
ด้านปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (NPL)
A : SAM มีนโยบายช่วยเหลือลูกค้า โดยมุ่งเน้นให้มีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงให้คำปรึกษา เจรจาหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติภายใต้แนวทางที่เหมาะสมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน ลูกค้าสามารถเข้ามาเจรจา ปรึกษาหารือแนวทางที่เป็นไปได้ในการแก้ไขหนี้ที่เหมาะสมกับกำลังความสามารถ รวมถึงสอบถามขั้นตอนการดำเนินการทางคดี และเจรจาได้ทุกช่วงเวลา แม้จะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีแล้ว
A : ขั้นตอนการปรับโครงสร้างหนี้ NPL ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SAM สามารถดำเนินการได้ดังนี้
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อนัดหมายวัน-เวลา เข้าพบและจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- เข้าพบเจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน บสส. พร้อมเอกสารในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 กรณีประกอบอาชีพเป็นพนักงานประจำ
2.1.1 สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
2.1.2 เครดิตบูโร
2.1.3 บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)
2.1.4 ทะเบียนบ้าน
2.2 กรณีประกอบอาชีพส่วนตัว/ธุรกิจส่วนตัว
2.2.1 Statement หมุนเวียนบัญชี
2.2.2 หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือเอกสารที่แสดงถึงการจัดตั้งนิติบุคคลนั้นๆ (คัดสำเนาไม่เกิน 1 เดือน)
2.2.3 บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
2.2.4 ทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
2.2.5 ตราประทับนิติบุคคล
- เมื่อจัดทำเอกสารการแสดงตนเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อพิจารณา พร้อมกรอบเวลาในการนำเสนอขออนุมัติกรณีการเจรจามีข้อยุติ
- แจ้งผลการพิจารณาให้ลูกค้าทราบ และนัดหมายทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
A : เอกสารประกอบการลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ มีดังนี้
(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง
- บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)
- ทะเบียนบ้าน
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล, ใบสำคัญการสมรส, ใบหย่า (ถ้ามี)
- หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA, Work Permit (กรณีต่างชาติ)
(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง
- หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือเอกสารที่แสดงถึงการจัดตั้งนิติบุคคลนั้นๆ (คัดสำเนาไม่เกิน 1 เดือน)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
- ทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
- ตราประทับนิติบุคคล
(3) กรณีดำเนินการในฐานะผู้จัดการมรดก
- ใบมรณบัตร
- คำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกฉบับศาลรับรองสำเนาถูกต้อง
- บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้จัดการมรดก
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
(4) กรณีดำเนินการในฐานะทายาทโดยธรรม
- ใบมรณบัตร
- บัญชีเครือญาติ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
(5) กรณีดำเนินการของผู้เยาว์
- บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)
- ทะเบียนบ้าน
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
- บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม
(6) กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการ
- หนังสือมอบอำนาจตามรูปแบบของ SAM พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท
- เอกสารของผู้มอบอำนาจ (1) หรือ (2) หรือ (3) หรือ (4) แล้วแต่กรณี โดยผู้มอบอำนาจลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
- บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
- บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของพยาน 2 คนที่ลงชื่อรับรองในหนังสือมอบอำนาจ
ด้านทรัพย์สินรอการขาย (NPA)
A: ราคาที่ บสส. ประกาศขาย เป็นราคาขั้นต่ำแล้ว ไม่สามารถต่อรองราคาได้ โดย บสส. กำหนดราคาประกาศขายจากคณะกรรมการกำหนดราคา หากในอนาคตมีการปรับเปลี่ยนราคาคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาตามสภาวะของตลาดและปัจจัยแวดล้อมในขณะนั้น และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคา การซื้อทรัพย์สินจะต้องใช้วิธีประมูลเท่านั้น พนักงาน บสส. ไม่มีอำนาจในการปรับลดราคา หรือต่อรองราคาแต่อย่างใด และไม่มีการรับค่าคอมมิชชั่นใดๆ จากผู้ซื้อ ขอให้ผู้ซื้อมั่นใจในความโปร่งใสของราคาที่ประกาศขายของ บสส.
A: บสส. ขายทรัพย์ตามสภาพ และตามข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารสิทธิ์ ดังนั้น ลูกค้าจึงต้องตรวจสอบประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ก่อน เช่น ทำเลที่ตั้ง สภาพทรัพย์สิน ภาระผูกพัน หรือ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน ความถูกต้องความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารสิทธิ์ หรือ สิ่งปลูกสร้าง หรือ ประเด็นอื่นใดที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานราชการ หรือ จากแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่พึงพอใจก่อนการตัดสินใจซื้อ
A: ในกรณีที่ทรัพย์เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ลูกค้าสามารถติดต่อขอชมทรัพย์ได้ โดยโทรศัพท์แจ้งความประสงค์และนัดหมายที่ Call Center 02-686-1888 หรือสามารถดำเนินการด้วยตนเอง โดยการเข้า เว็บไซต์ บสส. www.sam.or.th กรอกข้อมูลทรัพย์ที่จะขอเข้าชม เลือกทรัพย์ตามเงื่อนไขที่ บสส. ระบุให้สามารถเข้าชมได้ และในกรณีที่ทรัพย์เป็นที่ดินเปล่า ลูกค้าสามารถเดินทางไปดูทรัพย์ได้ด้วยตนเอง ตามแผนที่ที่ บสส. ได้ให้ข้อมูลไว้บน website www.sam.or.th
A: ลูกค้าควรเตรียมความพร้อมทางการเงินให้เรียบร้อยก่อนทำการเสนอซื้อทรัพย์ กรณีที่ลูกค้าประสงค์จะใช้สินเชื่อ แนะนำให้ปรึกษากับสถาบันการเงินที่ท่านใช้บริการอยู่ ก่อนทำการเสนอซื้อ เพื่อความพร้อมในการชำระราคาซื้อทรัพย์ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด และพร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ได้ต่อไป
A: กรณีที่ทรัพย์อยู่ในโครงการที่มีนิติบุคคล ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายให้ดูแลความเรียบร้อยของโครงการ และนิติบุคคลนั้นกำหนดให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องชำระค่าส่วนกลาง บสส. จะเป็นผู้ชำระค่าส่วนกลางในส่วนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ บสส. รับโอนกรรมสิทธิ์จนถึงวันที่ บสส. โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า
ทั้งนี้ ในกรณีที่ บสส. มีการชำระค่าส่วนกลางไว้ล่วงหน้าแล้ว บสส. ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกให้ลูกค้าชำระเงินค่าส่วนกลางที่ บสส. สำรองจ่ายล่วงหน้าไปแล้วนั้นคืนให้แก่ บสส. ตามสัดส่วนระยะเวลาการครอบครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น โดยปกติ บสส. จะชำระค่าส่วนกลางล่วงหน้าทั้งปี ยกตัวอย่างเช่น กรณีลูกค้ารับโอนกรรมสิทธิ์ เดือนกันยายน (เดือน 9) บสส. จะแจ้งให้ลูกค้าชำระค่าส่วนกลางของเดือน 10-12 (รวม 3 เดือน) คืนให้ บสส.
A: ทรัพย์ประมูล คือ ทรัพย์ใหม่ที่มีการประกาศขายครั้งแรก หรือ ทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาประกาศขาย กรณีที่ทรัพย์ดังกล่าวไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล บสส. จะปรับสถานะเป็นทรัพย์ซื้อตรง เพื่อขายให้ผู้สนใจรายแรกที่เสนอราคาไม่ต่ำกว่าราคาประกาศขาย
A: การประมูลทรัพย์ของ บสส. เป็นการยื่นซองเสนอราคา โดยลูกค้าที่จะเข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันซองเพื่อเสนอราคาประมูล เป็น “แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน” มูลค่า 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำตามรายการทรัพย์สินที่ลูกค้าจะยื่นซองประมูล สั่งจ่ายในนาม “บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด” โดยลูกค้าจะต้องลงทะเบียนและยื่นซองด้วยตนเอง หรือ ผ่านไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ภายในวัน-เวลา และสถานที่ ที่ บสส. กำหนด
บสส. จะเปิดซองและประกาศผลผู้ชนะการประมูล ณ สำนักงานใหญ่ของ บสส. ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถเข้าร่วมการรับชมการประกาศผลการประมูล ณ สำนักงานใหญ่ของ บสส. ได้ หรือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าจะรับชมการถ่ายทอดสดการประกาศผลผ่านสื่ออิเลคทรอนิกส์ (Facebook Live กลุ่มปิด) โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดและไม่ต่ำกว่าราคาขายขั้นต่ำที่ประกาศจะเป็นผู้ชนะการประมูล
A: เอกสารที่ต้องเตรียมในการลงทะเบียนประมูล ดังนี้
(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA (ไม่หมดอายุ) / Work permit (กรณีชาวต่างชาติ) (ไม่หมดอายุ)
(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง
- หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับนายทะเบียนรับรอง ไม่เกิน 1 เดือน)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจ
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ถ้ามี) *ตราประทับบริษัท กรณีมีระบุในหนังสือรับรอง
(3) กรณีมีการมอบอำนาจ ต้องมีเอกสารเพิ่มจากที่ระบุไว้ข้างต้น ดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (ใช้แบบฟอร์ม ของ บสส.หรือตามแบบฟอร์มที่ บสส.เห็นชอบ โดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท ต่อ ผู้รับมอบอำนาจ 1 ท่าน)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ *สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของพยานทั้ง 2 ท่าน
(4) กรณีผู้เยาว์
- สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
- สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม พร้อมลงนามรับรองเอกสาร (ไม่หมดอายุ)
A: ลูกค้าที่ลงทะเบียนแล้วสามารถประมูลทรัพย์ได้ทุกรายการที่มีการประกาศประมูลขายในรอบนั้นๆ โดยลูกค้าจะต้องยื่นซองประมูลทรัพย์ทุกรายการที่ต้องการประมูลซื้อ ซองละ 1 รายการ และวางหลักประกันเป็น แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน ในจำนวน 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำ ( 1 ซองประมูล/เช็ค 1 ฉบับ)
A: บสส. จะคืนเช็คฉบับที่ลูกค้าวางประกันซองไว้ ให้แก่ลูกค้าภายใน 15 วันทำการ โดย บสส. จะมีหนังสือแจ้งผลการประมูลแจ้งไปยังลูกค้า และลูกค้าสามารถแจ้งความต้องการในการรับเช็คคืน ดังนี้
- มารับเช็คด้วยตนเอง ในวันประกาศผลการประมูล ณ สถานที่ จัดประมูล หรือมารับภายหลัง
- แจ้งความประสงค์ให้ บสส. ส่งให้ลูกค้าผ่านไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้
กรณีลูกค้าเข้าร่วมงานเปิดซองประมูลด้วยตนเอง ณ สถานที่ ที่ บสส.กำหนด สามารถรับเงินประกันซองคืนได้ภายหลังจบงานประมูล
A: บสส. ไม่ตัดสิทธิ์การเป็นผู้ชนะประมูล แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมชม Facebook Live กลุ่มปิด หรือไม่ได้มาในวันเปิดซองประมูล ภายหลังการประมูล บสส. จะมีหนังสือแจ้งผลการประมูลแจ้งไปยังลูกค้า
A: ไม่ถือว่าเป็นการจองซื้อทรัพย์ ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขทั่วไปในการซื้อขายทรัพย์สินรอการขายของ บสส.
A: เอกสารที่ต้องเตรียมในการซื้อตรง ดังนี้
- แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน มูลค่า 10% ของราคาประกาศขายขั้นต่ำ โดยขีดคร่อมเฉพาะ (Account Payee Only) และขีดฆ่าหรือผู้ถือ สั่งจ่ายในนาม “บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด”
- เอกสารประกอบการเสนอซื้อ ดังนี้
(1) กรณีบุคคลธรรมดา ดำเนินการด้วยตนเอง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- หนังสือเดินทาง (Passport) + VISA (ไม่หมดอายุ) / Work permit (กรณีชาวต่างชาติ) (ไม่หมดอายุ)
(2) กรณีนิติบุคคล ดำเนินการด้วยตนเอง
- หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับนายทะเบียนรับรอง ไม่เกิน 1 เดือน)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจ
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ของกรรมการผู้มีอำนาจ (ถ้ามี) *ตราประทับบริษัท กรณีมีระบุในหนังสือรับรอง
(3) กรณีมีการมอบอำนาจ ต้องมีเอกสารเพิ่มจากที่ระบุไว้ข้างต้น ดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (ใช้แบบฟอร์ม ของ บสส. หรือตามแบบฟอร์มที่ บสส. เห็นชอบ ติดอากรแสตมป์ 30 บาท ต่อ ผู้รับมอบอำนาจ 1 ท่าน)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ *สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+ทะเบียนบ้านของพยานทั้ง 2 ท่าน
(4) กรณีผู้เยาว์
- สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่หมดอายุ)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- หนังสือให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
- สำเนาบัตรประจำตัวบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม พร้อมลงนามรับรองเอกสาร (ไม่หมดอายุ)
A: ลูกค้าชำระเงินมัดจำ 10% ณ วันเสนอซื้อ บสส.จะนัดหมายลูกค้าให้มาลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 10 วันทำการ หลังจากนั้น ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 90% พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ ภายใน 60 วันนับจากวันที่ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย
A: ลูกค้าจะต้องเตรียมค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (ปกติที่ 2% ของราคาประเมินราชการ – แต่อาจมีทรัพย์บางประเภท บางรายการที่ได้รับการลดหย่อน หรือ ยกเว้นตามมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาล) และเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงการเสนอซื้อในแต่ละครั้ง
โดยผู้มีหน้าที่ชำระค่าภาษีและค่าธรรมเนียมในการโอนในวันโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้
ผู้ขาย | ผู้ซื้อ |
---|---|
ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะ |
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าอื่นๆ เช่น ค่าคำขอ จำนวน 20 บาท ค่าอากรตาม ป.37 จำนวน 5 บาท ค่าพยาน จำนวน 20 บาท เป็นต้น |
A: บสส. จะโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้จะซื้อตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายเท่านั้น (ผู้เสนอซื้อ, ผู้ลงนามในสัญญา และผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ จะต้องเป็นรายเดียวกัน)
A: ทรัพย์ที่มีผู้ใช้ประโยชน์อยู่อาศัย บสส. จะดำเนินการฟ้องขับไล่ตามขั้นตอน ลูกค้ามีทางเลือกว่าจะรอให้ บสส.ขับไล่เสร็จแล้วค่อยเสนอซื้อ หรือว่าจะซื้อทรัพย์ดังกล่าวก่อน แล้วจึงไปเจรจากับผู้ใช้ประโยชน์เองก็ได้